คณะรัฐศาสตร์

waffle with fruits อาคารกลางน้ำ

ตึกอาคารของคณะรัฐศาสตร์ จำนวน 4 ชั้น ที่ยังไม่ได้ปรับปรุงการแก้ไขตึกอาคาร

อาคารคณะรัฐศาสตร์ อาคารที่ทำการถาวร มีลักษณะเป็นอาคาร 5 ชั้น

waffle with fruitsอาคารคณะรัฐศาสตร์หลังใหม่ขนาด 12 ชั้น

คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าสนใจ สะท้อนถึงการเติบโตของการศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศไทยที่มุ่งให้โอกาสแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง จากจุดเริ่มต้นในฐานะภาควิชาเล็ก ๆ สู่การเป็นคณะวิชาที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตบุคลากรด้านรัฐศาสตร์ออกสู่สังคมไทย

จุดเริ่มต้นในฐานะภาควิชา: สังกัดคณะนิติศาสตร์ (พ.ศ. 2514)

ในปี พ.ศ. 2514 ซึ่งเป็นปีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงก่อตั้งขึ้นนั้น คณะรัฐศาสตร์ยังไม่ได้มีสถานะเป็นคณะวิชาอย่างเป็นทางการ หากแต่เป็นเพียง ภาควิชาหนึ่งในสังกัดคณะนิติศาสตร์ เท่านั้น ภารกิจหลักของภาควิชารัฐศาสตร์ในยุคนั้นคือการ เปิดสอนวิชาพื้นฐานทางรัฐศาสตร์ ให้แก่นักศึกษาของคณะต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องเรียนรู้เนื้อหาด้านรัฐศาสตร์ ในช่วงเริ่มต้นของการก่อตั้งมหาวิทยาลัย บุคลากรสายวิชารัฐศาสตร์ยังมีจำนวนไม่มากนัก ที่ทำการของภาควิชาจึงอยู่ที่ "อาคารกลางน้ำ" ซึ่งเป็นที่ทำการร่วมกับอาจารย์คณะนิติศาสตร์ในระยะแรก ต่อมาเมื่อมีอาจารย์และนักศึกษาเพิ่มขึ้น จึงมีการสร้างอาคารชั่วคราวขึ้นใกล้ ๆ อาคารกลางน้ำ ทำให้คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ย้ายไปใช้พื้นที่ในอาคารชั่วคราวดังกล่าวเป็นการชั่วคราว เพื่อรอการก่อสร้างอาคารถาวรของคณะฯ ในอนาคต (อาคารกลางน้ำในภายหลังได้ถูกใช้เป็นที่ทำการของสภาอาจารย์)

ยกฐานะเป็นคณะรัฐศาสตร์ และการเติบโตในช่วงแรก (พ.ศ. 2516 - 2517)

ด้วยจำนวนนักศึกษาและความสำคัญของวิชารัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภาควิชารัฐศาสตร์ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น "คณะรัฐศาสตร์" อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2516 พร้อมกับเปิดรับสมัครนักศึกษาและทำการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีเป็นปีแรกในปีการศึกษาเดียวกันนั้นเอง

ในช่วงนี้ คณะรัฐศาสตร์ถือเป็น คณะที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 รองจากคณะนิติศาสตร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจของสังคมในด้านการเมืองการปกครองและวิชาที่เกี่ยวข้อง ดร.บรรพต วีระสัย (หรือ จิรโชค วีระสย) ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ รักษาการในตำแหน่งคณบดีคนแรก เพื่อวางรากฐานการบริหารจัดการของคณะฯ

เมื่อการเรียนการสอนดำเนินไปและจำนวนนักศึกษาขยายตัว ใน วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2517 คณะรัฐศาสตร์ได้ย้ายที่ทำการจากอาคารชั่วคราวใกล้ ๆ อาคารกลางน้ำ ไปยังอาคารไม้ 2 ชั้น ที่สร้างเสร็จแล้ว อาคารแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับสนามกีฬาหัวหมาก และมีประตูเล็ก ๆ เชื่อมถึงกัน ทำให้สามารถเดินเข้าออกระหว่างคณะฯ กับสนามกีฬาได้อย่างสะดวก (อาคารไม้ 2 ชั้นนี้เคยเป็นที่ทำการชั่วคราวของคณะมนุษยศาสตร์มาก่อน และภายหลังที่คณะรัฐศาสตร์ย้ายออกไป ก็ถูกใช้เป็นที่ทำการของกองแผนงาน สำนักงานอธิการบดีในเวลาต่อมา) ความสำเร็จอีกประการหนึ่งในช่วงนี้คือ ใน เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2517 คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้ให้การรับรองคุณวุฒิ ศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) หรือ ศศ.บ. (รัฐศาสตร์) ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยพิจารณาว่าเป็นปริญญาซึ่งผู้สำเร็จการศึกษาสามารถบรรจุเข้ารับราชการได้ไม่สูงกว่าข้าราชการพลเรือนสามัญ ชั้นตรี อันดับ 2 ซึ่งในขณะนั้นมีอัตราเงินเดือนเริ่มต้นที่ 1,645 บาท การรับรองวุฒิจาก ก.พ. นี้ ถือเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพการศึกษาของคณะฯ และเป็นการเปิดโอกาสทางอาชีพให้กับบัณฑิตของคณะฯ อย่างเป็นทางการ

การสร้างอาคารถาวรและการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง (พ.ศ. 2520 - ปัจจุบัน)

เมื่อคณะรัฐศาสตร์เติบโตอย่างมั่นคง ความจำเป็นในการมีอาคารที่ทำการและอาคารเรียนถาวรก็เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับจำนวนนักศึกษาที่เพิ่มขึ้นและการขยายตัวทางวิชาการ ใน วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2520 มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้จัดประมูลก่อสร้างที่ทำการและอาคารเรียนคณะรัฐศาสตร์ ซึ่งรวมถึงการรื้อถอนอาคารศาลาอเมริกัน ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะใช้ในการก่อสร้างอาคารแห่งใหม่นี้

หลังจากนั้นเพียง 2 ปีเศษ การก่อสร้างอาคารที่ทำการและอาคารเรียนของคณะรัฐศาสตร์ก็แล้วเสร็จ แม้จะมีวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงนั้นที่ทำให้ต้องลดจำนวนชั้นของอาคารลงจากแผนเดิมที่ตั้งใจไว้ 7 ชั้น แต่ก็ยังคงเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับการเรียนการสอนได้เป็นจำนวนมาก

ใน วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2522 คณะรัฐศาสตร์ได้ย้ายที่ทำการของคณะฯ เข้าไปอยู่ในอาคารใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ข้างอาคาร NB3 (หรือปัจจุบันคือ อาคารคณะนิติศาสตร์ 3) อาคารแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงที่ทำการของคณะฯ เท่านั้น แต่ยังเป็นห้องเรียนขนาดใหญ่หลายห้อง ทำให้นักศึกษามีพื้นที่เรียนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

พิธีทำบุญขึ้นอาคารใหม่ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและศักดิ์สิทธิ์ใน วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2522 เวลา 10.30 น. โดยบรรดาคณาจารย์และเจ้าหน้าที่คณะรัฐศาสตร์ร่วมกันทำพิธีสงฆ์ ณ ห้องประชุมภายในอาคารที่ทำการคณะรัฐศาสตร์แห่งใหม่ (ซึ่งมีภาพถ่ายในยุคนั้นเป็นภาพสีน้ำตาล) ในปีเดียวกันนั้น อาคารสำคัญอื่น ๆ ของมหาวิทยาลัย เช่น อาคาร สวป. และอาคารคณะวิทยาศาสตร์ ก็ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้เช่นกัน

ปัจจุบัน คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมี อาคารเรียน 12 ชั้นอีก 1 อาคาร ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโรงอาหารนพมาศ เพื่อรองรับการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรต่าง ๆ ทั้งในระดับปริญญาตรี โท และเอก รวมถึงการเป็นศูนย์กลางการวิจัยและบริการวิชาการด้านรัฐศาสตร์ที่สำคัญของประเทศต่อไป

อาคารคณะรัฐศาสตร์หลังใหม่ 12 ชั้น (พ.ศ. 2550 - ปัจจุบัน)

เพื่อรองรับการขยายตัวของนักศึกษาและหลักสูตรที่เพิ่มขึ้น คณะรัฐศาสตร์ได้มีการพัฒนาอาคารสถานที่อย่างต่อเนื่อง โดยในระหว่างปี พ.ศ. 2550-2552 ได้มีการก่อสร้างอาคารคณะรัฐศาสตร์หลังใหม่ขนาด 12 ชั้น 1 หลัง โดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ตรงกับวันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 12 ปีกุน จุลศักราช 1369 เวลา 09.00 ถึง 10.04 นาฬิกา โดยใช้พื้นที่ของอาคาร NB 3 A, B และ NB 10 เดิม

อาคารหลังใหม่นี้ได้ส่งมอบและตรวจรับเมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552 มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์สำหรับการเรียนการสอนในทุกระดับ ทั้งปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก รวมถึงเป็นอาคารสำนักงานสำหรับให้บริการและบริหารงานของคณะรัฐศาสตร์ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และวิจัยด้านรัฐศาสตร์ที่ทันสมัยและครบวงจร

--------------------------------------------------------

รายนามผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีคณะรัฐศาสตร์

1. ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.จิรโชค วีระสย – 25 มกราคม พ.ศ. 2518 - 14 มิถุนายน พ.ศ. 2520

2. รองศาสตราจารย์ สุขุม นวลสกุล – 27 มิถุนายน พ.ศ. 2520 - 30 กันยายน พ.ศ. 2523

3. รองศาสตราจารย์ ศิโรตม์ ภาคสุวรรณ – 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 - 1 มีนาคม พ.ศ. 2526

4. รองศาสตราจารย์ ดร.สุรพล ราชภัณฑารักษ์ – 11 มีนาคม พ.ศ. 2526 - 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528

5. รองศาสตราจารย์ อัษฎางค์ ปาณิกบุตร – 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 - 7 มิถุนายน พ.ศ. 2530

6. รองศาสตราจารย์ วิทยา นภาศิริกุลกิจ – 8 มิถุนายน พ.ศ. 2530 - 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2531

7. รองศาสตราจารย์ เชษฐ เทพเฉลิม – 3 สิงหาคม พ.ศ. 2531 - 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533

8. รองศาสตราจารย์ สนธิ์ บางยี่ขัน – 1 ธันวาคม พ.ศ. 2533 - 30 กันยายน พ.ศ. 2536

9. รองศาสตราจารย์ เสถียร หอมขจร – 16 ธันวาคม พ.ศ. 2536 - 15 ธันวาคม พ.ศ. 2538

10. รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต – 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 - 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541

11. รองศาสตราจารย์ พรชัย เทพปัญญา – 8 มิถุนายน พ.ศ. 2541 - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2543

12. รองศาสตราจารย์ พรชัย เทพปัญญา (วาระที่ 2) – 17 ตุลาคม พ.ศ. 2543 - 16 ตุลาคม พ.ศ. 2547

13. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ – 16 มกราคม พ.ศ. 2548 - 15 มกราคม พ.ศ. 2552

14. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ (วาระที่ 2) – 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552 - 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

15. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ (รักษาการแทนฯ) – 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 30 เมษายน พ.ศ. 2555

16. อาจารย์ ดร.มนตรี กวีนัฏธยานนท์ (รักษาการแทนฯ) – 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

17. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ (รักษาการแทนฯ) – 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

18. รองศาสตราจารย์ ดร.ทิพรัตน์ บุบผะศิริ (รักษาการแทนฯ) – 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

19. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ (รักษาการแทนฯ) – 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 27 เมษายน พ.ศ. 2557

20. รองศาสตราจารย์ ดร.ทิพรัตน์ บุบผะศิริ (รักษาการแทนฯ) – 28 เมษายน พ.ศ. 2557 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557

21. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ (รักษาการแทนฯ) – 1 กันยายน พ.ศ. 2557 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

22. รองศาสตราจารย์ อนงค์ทิพย์ เอกแสงศรี – 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

23. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ (รักษาการแทนฯ) – 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 - 30 มิถุนายน พ.ศ. 2562

24. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาธิน สุนทรพันธุ์ – 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 - 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566

25. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ (รักษาการแทนฯ) – 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 - 28 ธันวาคม พ.ศ. 2566

26. รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ศุภผล – 2 มกราคม พ.ศ. 2567 - ปัจจุบัน

..............................................................

* เรียบเรียงบทความเชิงประวัติศาสตร์ โดย เบ็ญจลักษณ์ ธรรมบุตร บรรณารักษ์ชำนาญการ สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง (2568, กรกฎาคม 15)

* Content จัดทำโดย เวธกา บุณยะฤทธิ์ บรรณารักษ์ปฏิบัติการ สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง (2568, กรกฎาคม 23)